วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555

กำเนิดของครอบครัว


คุณพ่อสิงหเรศ เพ็ชร์รัตน์ เปลี่ยนชื่อนามสกุลใหม่ เป็น นายคงเดช เพชรรัตน์  แต่ไม่สามารถหาหลักฐานแน่นอนว่าเป็นเมื่่อใดในช่วงระหว่างปี 2490  ถึง พ.ศ.2497 ส่วนสาเหตุที่เปลี่ยนก็คงจะมาจาก "นโยบายรัฐนิยม" ของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ที่มีการปฏิวัติตั้งแต่การปกครอง การใช้ภาษา ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ดังนั้น การเปลี่ยนชื่อที่ดูไม่เป็นชายชาตรีจึงไม่เหมาะสมกับผู้ที่เป็นข้าราชการัทั่วไป ส่วนนามสกุลนั้นก็อาจจะมีความจำเป็นต้องตัดไม้ไต่คู้ออกก็เพื่อให้ดูเรียบง่ายสบายตาเหมาะสมกับรัฐนิยมเท่านั้นเอง  เพราะยุคนั้นมีการปฏิวัติการใช้ภาษากันมากมาย(จนบางเรื่องออกจะโอเวอร์หลุดโลกไปมากๆ อย่างเช่น การกำหนดเรื่องการสะกดคำแบบใหม่ จนทำให้ครูบาอาจารย์แทบจะผูกคอตายไปตามๆ กัน ถ้ามีผลบังคับใช้มาจนถึงปัจจุบัน โชคดีที่ท่านหมดอำนาจไปเสียก่อน เปิดโอกาสให้ผู้นำคนใหม่มาแสดงอาการหลุดโลกให้ผู้คนได้เห็นกันต่อไป เห็นได้เท่านั้น พูดไม่ได้)  และก็เป็นการลดความฟุ่มเฟือยในการใช้วรรณยุกต์อีกด้วย เนื่องจากว่าต้องออกเสียงว่า "เพ็ด" เหมือนกัน แม้จะไม่มีไม้ไต่คู้และตัวการันต์สะกดอยู่ แต่หากใช้ "เพชรรัตน์" ส่วนมากจะอ่านออกเสียงว่า "เพ็ด-ชะ-รัด"

แต่มีหลักฐานจากทะเบียนสมรส ระหว่าง นายคงเดช เพชรรัตน์ กับ นางสาวเยื้อ  แสวงศิลป์ เมื่อ วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2497 ที่สำนักทะเบียน อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ในเลขทะเบียนที่ 16/2252 ลง 12 พฤษภาคม พ.ศ.2497 


ซึ่งเป็นเอกสารแสดงความมีตัวตนของ คุณพ่อคงเดช เพชรรัตน์ และคุณแม่เยื้อ เพชรรัตน์ ในการก่อร่างสร้างครอบครัวขึ้นมาใหม่ ภายใต้นามสกุล "เพชรรัตน์" เส้นทางนี้ มาจนถึงทุกวันนี้ที่ขยับขยายออกไปจนถึงรุ่นหลาน ส่วนความเป็นมาของการสมรส หรือเรื่องดราม่าประเภทนวนิยายน้ำเน่าเกี่ยวกับความเป็นมาก็คงไม่ต้องกล่าวถึง แม้ว่าจะมีเรื่องเล่าจาก คุณยาย คุณน้า หรือญาติผู้ใหญ่บางคนมากมายก็ตามที อาจจะกล่าวถึงในกรณีที่มีส่วนสัมพันธ์กับเนื้อหาในตอนนั้นๆ 


คุณแม่เ้ยื้อ เพชรรัตน์ นามสกุลเดิม แสวงศิลป์ เกิดเมื่อ 1 ตุลาคม พ.ศ.2476 เป็นบุตรสาวคนโตของ นายยอด และนางฟ้อน แสวงศิลป์  ซึ่งคุณตายอด นั้น มีอาชีพรับราชการเป็นครูใหญ่ อยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.สระแก้ว จ.ปราจีนบุรี(ในขณะนั้น) ทราบแต่เพียงว่ามีบ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามของสถานีรถไฟอำเภอสระแก้ว แต่ท่านได้เสียชีวิตลงตั้งแต่คุณแม่เยื้อยังเล็กอยู่ โดยคุณแม่เยื้อ ยังมีน้องสาวร่วมบิดามารดาอีก 1 คน ชื่อ นางสายหยุด (ปัจจุบันอาศัยอยู่กับบุตรสาวคนหนึ่งที่ กทม.)โดยสมรสกับ ร.ต.ต.ชาญ พรหมเคนษา จนท.ตร.สภ.อ.สระแก้ว (ยศหลังสุดก่อนเกษียณอายุราชการ ปัจจุบันอยู่กับภรรยาใหม่ที่ ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว) มีบุตรด้วยกัน 4 คน


ภาพนี้ถ่ายที่บ้านเลขที่ 99/7 ช.ซอยบ้านญวน ถนนแก้วพิจิตร ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เมื่อปี พ.ศ.2531
ด้านบนสุด คือ คุณยายฟ้อน  แสวงศิลป์ (ซึ่งน่าจะเป็นภาพสุดท้ายที่ท่านถ่ายไว้ก่อนที่จะเสียชีวิต) ถัดลงมา คือนางอุษา ชักนำ (นั่งอุ้มน้องส้ม ธัญญรัตน์ ชักนำ ลูกสาวคนเดียว) ขวาสุดคือ คุณแม่เยื้อ เพชรรัตน์ นั่งตรงกลางย้อมผมสีแดงคือ คุณน้าสายหยุด 

บ้านหลังนี้มีเรื่องราวที่จะต้องพูดถึงอีกมากมายหลายเรื่อง เป็นจุดเปลี่ยนแปลงของหลายๆ เหตุการณ์ รวมถึงเป็นเหตุผลประกอบในการตัดสินใจหลายๆ อย่าง เพราะเราใช้ชีวิตอยู่กับบ้านหลังนี้มานานหลายปี และคนที่อยู่นานที่สุดก็คือ คุณแม่เยื้อ เพชรรัตน์ 

ที่สำคัญที่สุดก็คือ บ้านหลังนี้เป็นสถานที่สุดท้ายในชีวิตของคุณยาย คุณพ่อและคุณแม่ ในระยะเวลาห่างกันเพียง 1 ปี กับอีก 1 เดือน คุณพ่อนั้นไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ส่วนคุณแม่ นั่งสิ้นลมหายใจไปอย่างสงบที่ระเบียงหน้าบ้านหลังนี้เอง(ที่มองเห็นไม้ตีแบบโปร่งแนวตั้งด้านหลัง)

ไม่มีความคิดเห็น: